Biotech Thailand is a biomedical & biotechnology directory providing a list of organisations, products & services in the biotech industry.

ADVERTORIALS

    

คลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิ ตัวช่วยรักษาคุณภาพยาและเครื่องสำอางให้กับธุรกิจของคุณ



สิ่งสำคัญอันดับแรกที่ผู้ประกอบการควรใส่ใจ คือ คุณภาพของสินค้า หากการจัดเก็บสินค้าไม่ดี สินค้าเสื่อมคุณภาพเร็วขึ้นหรือส่งสินค้าไม่มีคุณภาพไปยังลูกค้า จะส่งผลเสียทั้งต่อผู้บริโภคและความน่าเชื่อถือของแบรนด์ได้ การเลือกคลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิที่เหมาะสมกับธุรกิจจึงมีความสำคัญอย่างมาก เพื่อความคุณภาพของสินค้า และภาพลักษณ์ที่ดีต่อองค์กร



คลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิ หรือ คลังสินค้าห้องเย็น (Cold Storage Warehouse) คือ พื้นที่จัดเก็บสินค้าที่มีการควบคุมอุณหภูมิภายในให้มีความเย็นที่เหมาะสมกับการจัดเก็บสินค้าบางประเภทที่ต้องเก็บในอุณภูมิต่ำเพื่อรักษาคุณภาพสินค้า โดยทั่วไปคลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิจะมีระดับความเย็นตั้งแต่อุณหภูมิต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียส ไปจนถึงอุณหภูมิติดลบ ความสูงต่ำของอุณหภูมินั้นขึ้นอยู่กับประเภทสินค้าที่จัดเก็บ เช่น เนื้อสัตว์ อาหารทะเล น้ำนมดิบ ผักผลไม้ เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง ยา อาหารเสริม เป็นต้น

การควบคุมอุณหภูมินั้น ช่วยลดอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีในอาหาร ชะลอการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ในอาหาร ทำให้อาหารเกิดการเน่าเสียช้าลง สามารถเก็บรักษาไว้ได้นานมากยิ่งขึ้น นั่นคือ ทำให้การบริหารจัดการสต็อกสินค้าเกิดความคุ้มทุน เนื่องจากไม่ต้องกังวลเรื่องการเน่าเสีย สามารถนำเข้าสินค้าได้ในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มาก ไม่น้อยจนเกินไป

สินค้าที่ควรจัดเก็บในคลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิ ได้แก่

• อาหารและเครื่องดื่ม สินค้าอันดับต้น ๆ ที่มีความจำเป็นต้องใช้บริการคลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิ ต้องเก็บในอุณหภูมิต่ำที่เหมาะสมกับอาหารนั้น ๆ ป้องกันการเน่าเสียและเก็บรักษาได้ยาวนาน นอกจากอาหารแล้วยังมีเครื่องดื่มต่าง ๆ ที่ต้องอาศัยการจัดเก็บโดยการควบคุมอุณหภูมิเพื่อรักษาคุณภาพของสินค้าไว้ เช่น ไวน์ น้ำผลไม้ นม เป็นต้น

• เครื่องสำอาง โดยส่วนใหญ่เครื่องสำอางมักต้องอยู่ในอุณหภูมิปกติหรืออุณหภูมิห้อง หากอยู่นอกพื้นที่ควบคุมหรืออุณหภูมิที่สูงขึ้นอาจทำให้สินค้าได้เสื่อมคุณภาพได้ อย่างเช่น กลุ่ม Make Up และกลุ่ม Skin Care เป็นต้น

• ยา วิตามิน อาหารเสริม ต้องอาศัยคลังควบคุมอุณหภูมิเช่นเดียวกัน เพื่อป้องกันการเสื่อมคุณภาพภายในโครงสร้างระดับโมเลกุลของสินค้า และยังป้องกันการปนเปื้อนสิ่งแปลกปลอมได้อีกด้วย

• สินค้าที่มีลักษณะแบบขี้ผึ้ง เช่น เทียนไข ยาหม่อง มีความจำเป็นอย่างมากที่ต้องได้รับการจัดเก็บแบบควบคุมอุณหภูมิ เพื่อรักษาสภาพให้คงรูปอยู่ในสภาพเดิม ไม่ให้เกิดการละลายหรือเสียรูป

การเลือกใช้คลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิควรพิจารณาจากอะไรบ้าง ?

1. ขนาด พิจารณาขนาดของคลังสินค้าให้เพียงพอต่อการจัดเก็บสินค้าและปริมาณสินค้า หรือกรณีที่คลังสินค้าใหญ่เกินไปอาจลองมองหาผู้ประกอบการรายอื่นในการแชร์คลังสินค้าเพื่อลดค่าใช้จ่าย หรือควรหาคลังสินค้าที่คิดราคาตามปริมาณสินค้าตามพื้นที่ที่ใช้จริง เช่น ต่อตารางเมตร ต่อลูกบาตรเมตร หรือต่อพาเลท เป็นต้น

2. อุณหภูมิ สินค้าแต่ละประเภทต้องจัดเก็บในอุณหภูมิที่ต่างกัน เพื่อรักษาคุณภาพสินค้าให้ดีที่สุด เช่น
      • อุณหภูมิ -40 องศา เหมาะสำหรับแช่แข็งประเภทเนื้อสด
      • อุณหภูมิ -20 องศา เหมาะสำหรับสินค้าที่ผ่านการแช่แข็งมาแล้ว เช่น ปลา ไก่ หมู
      • อุณหภูมิ 0-5 องศา เหมาะสำหรับผัก ผลไม้ ถั่ว ชีส นม ไข่ไก่
      • อุณหภูมิ 12-15 องศา เหมาะสำหรับไวน์
      • อุณหภูมิ 20-25 องศา เหมาะสำหรับแป้ง ข้าวสาร หรือ เครื่องสำอาง ยา วิตามิน

3. ราคา ลองเปรียบเทียบดูความคุ้มค่าให้กับธุรกิจมากที่สุด ตั้งแต่ราคาการจัดเก็บไปจนถึงอัตราค่าไฟ ต้องพิจารณาฟังก์ชันของคลังสินค้าควบคุมอุณภูมิให้เหมาะสมกับการจัดเก็บสินค้า หากราคาถูกแต่ไม่เหมาะสมด้วยองค์ประกอบต่าง ๆ อาทิ สถานที่ตั้ง ระยะทางที่ไกลเกินไป อุณหภูมิไม่เหมาะกับสินค้า เป็นต้น

4. ทำเลที่ตั้งและการขนส่ง คลังสินค้าควบคุมอุณภูมิควรมีทำเลที่ตั้งที่เหมาะสมและเอื้ออำนวยต่อการขนส่งสินค้า ควรอยู่ใกล้กับโรงงานผลิตหรือฮับกระจายสินค้า เพื่อลดระยะเวลาการขนส่งและประหยัดต้นทุนทางด้านโลจิสติกส์ ทั้งนี้ ควรพิจารณาเรื่องค่าบริการในการขนส่งและบริการอื่น ๆ ควบคู่กันไปด้วย

5. ระยะเวลาในการรับจัดเก็บสินค้า ควรคำนึงถึงระยะเวลาที่คลังสินค้าสามารถรับฝากให้สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจ การระบายสินค้าออกให้ทันต่อระยะเวลาในการรับฝาก หรือราคาในการจัดเก็บระยะเวลาที่ยาวนานขึ้น เพื่อป้องกันความเสียหายต่อสินค้าและธุรกิจ

6. มาตรฐานรับรอง สินค้าที่จัดเก็บในห้องเย็นส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอาหาร ซึ่งมีมาตรฐานการจัดเก็บที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับประเภทของอาหาร การจัดเก็บที่ถูกสุขลักษณะ ปลอดภัย และปราศจากการปนเปื้อนถือเป็นสิ่งสำคัญมาก ดังนั้น การเลือกผู้ให้บริการคลังสินค้าควบคุมอุณภูมิควรคำนึงถึงมาตรฐานการรับรองต่าง ๆ จากหน่วยงานที่เชื่อถือได้ ได้แก่ ISO, Halal, GMP, EST, HACCP เป็นต้น

7. บริการเสริมต่าง ๆ เพื่อรองรับความต้องการของผู้จัดเก็บสินค้า เช่น บริการคัดแยก บรรจุ ผลิต ผสม ประกอบ ฟรีซ ติดฉลากบรรจุภัณฑ์ หรือ ระบบจัดการสต็อกสินค้าแบบเรียลไทม์ ตลอด 24 ชม.

การเลือกคลังสินค้าห้องเย็นที่ได้มาตรฐานและเหมาะสมสำหรับธุรกิจ ช่วยเรื่องการบริหารจัดการสต็อกสินค้า สามารถนำเข้าสินค้าในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ต้องกังวลเรื่องการเน่าเสีย ความเสื่อมสภาพ เพื่อความคุ้มทุนและคุ้มค่าให้กับธุรกิจ


ขอบคุณที่มาโดย : adminmkt จาก AKITA WAREHOUSE , JWD GROUP , PRO IND SOLUTION

ขอบคุณภาพโดย : vanitjan on Freepik

อ่านบทความเพิ่มเติม >> คลิกที่นี่