Moderna วัคซีนทางเลือกที่คนไทยหลายคนรอคอย
หนึ่งในวัคซีนทางเลือกซึ่งกำลังเป็นที่สนใจในประเทศไทย จากการทดสอบและวิจัยถือว่ามีประสิทธิภาพดี สร้างภูมิคุ้มกันป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 และเป็นที่ยอมรับในระดับสากล อาการข้างเคียงก็อยู่ในระดับที่ไม่รุนแรง และสามารถหายได้เองภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน ถือเป็นความหวังหลักที่ประชาชนต้องการ นั่นคือ วัคซีน Moderna (โมเดอร์นา)
Moderna (โมเดอร์นา) คือ วัคซีนชนิด mRNA ที่ผลิตโดย บริษัท โมเดอร์นาทีเอ็กซ์ (ModernaTX, Inc.) ประเทศสหรัฐอเมริกา ผลิตจากสารพันธุกรรมของไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคโควิด-19 เพื่อช่วยกระตุ้นเซลล์ให้ผลิตสารโปรตีนสไปค์ (Spike Protein) เป็นการจำลองลักษณะของไวรัสเมื่อเข้าสู่ร่างกายโดยที่ไม่มีการติดเชื้อ ทำให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันต้านเชื้อไวรัส เมื่อฉีดเข้าบริเวณกล้ามเนื้อแขน วัคซีนจะช่วยกระตุ้นให้เซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันผลิตแอนติบอดีที่ช่วยจัดการเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่ทำให้เกิดโรคโควิด-19 (COVID-19) จึงอาจช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อหรือการเกิดอาการรุนแรงเมื่อติดเชื้อได้ วัคซีนนี้ไม่มีส่วนผสมของไข่ ผู้แพ้โปรตีนไข่ก็สามารถฉีดได้
Moderna (โมเดอร์น่า) มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดโรคโควิด-19 กว่า 90% ในบุคคลทั่วไป และป้องกันการติดโรคโควิด-19 ในเด็กอายุ 12-17 ได้ 100% หลังฉีดครบ 2 เข็ม
ผู้ที่รับวัคซีน Moderna อาจจำเป็นต้องรับวัคซีน 2 โดส ห่างกัน 28 วัน เว้นแต่ว่าผู้ป่วยจะมีประวัติเกี่ยวกับภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องที่อาจจำเป็นต้องได้รับวัคซีน 3 โดส ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์
สำหรับบางคนที่ได้รับการฉีดวัคซีนชนิดอื่นมาครบโดสแล้ว และมีความจำเป็นหรือมีความประสงค์ประสงค์จะรับวัคซีน Moderna เป็นวัคซีนบูสเตอร์ หรือ บูสเตอร์โดส (Booster Dose) เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน อาจต้องรออย่างน้อย 6 เดือนหลังรับวัคซีนชนิดอื่นครบโดสแล้ว
วัคซีน Moderna เหมาะสำหรับใครวัคซีนโมเดอร์นาอาจเหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป รวมถึงผู้ป่วยมีประวัติเป็นโรคปอดเรื้อรัง โรคหัวใจ โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคตับ และผู้ติดเชื้อเอชไอวี เพราะเป็นกลุ่มเสี่ยงที่สามารถติดเชื้อโควิด-19 ได้ง่ายและเชื้ออาจก่อให้เกิดอาการรุนแรงได้ นอกจากนี้ องค์การอนามัยโลกยังแนะนำให้สตรีตั้งครรภ์และอยู่ในช่วงให้นมบุตรเข้ารับการฉีดวัคซีน Moderna ได้โดยไม่จำเป็นต้องหยุดให้นม แต่ควรได้รับการประเมินภาวะสุขภาพจากแพทย์ก่อน
ประสิทธิผลของวัคซีน Modernaจากการศึกษาประสิทธิผลของวัคซีนต่อสายพันธุ์เดลตาในประเทศกาตาร์ จนถึงเดือนกันยายน 2564 ตีพิมพ์ในวารสาร Nuture Medicine พบว่า วัคซีน Moderna มีประสิทธิผลในการป้องกันการติดเชื้อสูงกว่า ในขณะที่ประสิทธิผลในการป้องกันอาการรุนแรงหรือเสียชีวิตอยู่ในระดับสูงใกล้เคียงกัน ดังนี้
• การป้องกันการติดเชื้อ 73.1% เทียบกับวัคซีน Pfizer 51.9%
• การป้องกันการติดเชื้อแบบไม่มีอาการ 53.6% เทียบกับวัคซีน Pfizer 46.0%
• การป้องกันการติดเชื้อแบบมีอาการ 73.9% เทียบกับวัคซีน Pfizer 44.4%
• การป้องกันอาการรุนแรงหรือเสียชีวิต 96.1% เทียบกับวัคซีน Pfizer 93.4%
ผลข้างเคียงของวัคซีน Modernaอาการมักเกิดขึ้นเพียงชั่วคราวและอาจหายไปได้เองภายใน 1-2 วัน เช่น บวมแดง รู้สึกเจ็บปวดบริเวณที่ฉีด มีไข้คล้ายไข้หวัด หนาวสั่น ปวดศีรษะ ตัวร้อน ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เหนื่อยง่าย เป็นต้น แต่หากเกิดผลข้างเคียงระดับรุนแรง เช่น มีผื่นขึ้น ลมพิษ หายใจลำบาก อาเจียน ท้องเสีย หมดสติ รู้สึกใบหน้าชา หรือเป็นอัมพาต ควรรีบพบแพทย์ทันที
ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทยแนะนำให้ผู้ที่ได้รับวัคซีนชนิด mRNA โดยเฉพาะเด็กและวัยรุ่นชาย งดออกกำลังกายอย่างหนักเป็นเวลา 1 สัปดาห์หลังฉีดวัคซีน และให้สังเกตอาการตนเอง หากมีอาการเจ็บหน้าอก หายใจเหนื่อยหรือหายใจไม่อิ่ม ใจสั่น หน้ามืด เป็นลม ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อประเมินอาการ หากแพทย์สงสัยภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจะพิจารณาตรวจค้นเพิ่มเติม
ตารางฉีดวัคซีน Modernaคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค กรมควบคุมโรค (เทียบเท่า ACIP ของ CDC ในสหรัฐฯ และ JCVI ของหน่วยงานสาธารณสุขอังกฤษ) มีมติการประชุมออกคำแนะนำการฉีดวัคซีน ดังนี้
กรณีที่ 1 ยังไม่เคยได้รับวัคซีนใดมาก่อน ควรฉีดวัคซีน Moderna 2 เข็ม ห่างกัน 4 สัปดาห์
กรณีที่ 2 ได้รับวัคซีนอื่นมาก่อน 1 เข็ม อาจฉีดเป็นสูตรไขว้ ห่างจากเข็มแรก 4 สัปดาห์ ได้แก่• Sinovac - Moderna
• Sinopharm - Moderna
• AstraZeneac - Moderna
• Pfizer - Moderna
กรณีที่ 3 ได้รับวัคซีนยี่ห้ออื่นครบ 2 เข็มแล้ว • หากได้รับวัคซีนเชื้อตาย เช่น Sinovac หรือ Sinopharm ครบ 2 เข็ม ให้ฉีดกระตุ้นด้วยวัคซีน Moderna ห่างจากเข็มที่ 2 อย่างน้อย 4 สัปดาห์
• หากได้รับวัคซีน AstraZeneca ครบ 2 เข็ม ให้ฉีดกระตุ้นด้วยวัคซีน Moderna ห่างจากเข็มที่ 2 ประมาณ 6 เดือน แต่สามารถฉีดได้ก่อนตามดุลยพินิจของแพทย์
การฉีดวัคซีนเป็นเพียงอีกหนึ่งตัวเลือกที่ช่วยให้ร่างกายเรามีภูมิคุ้มกันที่ดียิ่งขึ้น ถึงแม้ได้รับวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงแล้ว สามารถป้องกันโรคได้ แต่ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ทั้งหมด จะยังต้องป้องกันตัวเองไม่ว่าจะเป็นการใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง และล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์อยู่เสมอ
ขอบคุณที่มาโดย : -
นพ.ชนาธิป ไชยเหล็ก จาก THE STANDARD-
World Medical Hospital (WMC)-
พญ.ปิยะรัตน์ สัมฤทธิ์ประดิษฐ์ พญ.สิริอร วัชรานานันท์ และ นพ.ชนรัฐ เสถียร จากโรงพยาบาลพระรามเก้า-
Sanook.comขอบคุณภาพโดย : Freepikบทความน่าสนใจ:•
'mRNA' วัคซีนที่คนไทยเรียกหา•
วัคซีนป้องกันโควิด-19 สำหรับเด็ก•
วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19