‘STEM CELL’ เซลล์บำบัด ทางเลือกในการรักษาและฟื้นฟู
ในขณะที่โลกต้องเผชิญกับโรคต่าง ๆ มากมาย ทั้งโรคที่มีอยู่ก่อนแล้วและโรคที่เกิดขึ้นใหม่ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหลายโรคที่ต้องเผชิญอาจต้องทนต่อความเจ็บปวดจากโรคดังกล่าวอยู่ แม้ว่าวงการแพทย์จะพัฒนาไปมากแล้วก็ตาม แต่หลังจากมีการค้นพบ ‘สเต็มเซลล์’ นำมาใช้ในการรักษาโดยการปลูกถ่ายไขกระดูก จึงมีการศึกษาวิจัยการใช้สเต็มเซลล์มาอย่างต่อเนื่อง
เซลล์ต้นกำเนิด หรือ สเต็มเซลล์ (STEM CELL) อยู่ทั้งในมนุษย์ พืช และสัตว์ จะถูกปล่อยออกมามากขึ้นเมื่อร่างกายต้องการการรักษา และเมื่ออายุมากขึ้นสเต็มเซลล์จะน้อยลง การซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ ของร่างกายก็ลดลง ทางการแพทย์จึงมีการศึกษาวิจัยโดยการใช้สเต็มเซลล์ในการฟื้นฟูสุขภาพเมื่อเกิดการเจ็บป่วย สเต็มเซลล์ มีที่มาจากหลายส่วนของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นไขกระดูก ฟันน้ำนม กระแสเลือด เนื้อเยื่อสายสะดือ รก และไขมัน
ก่อนนั้นใช้สเต็มเซลล์เม็ดเลือดจากไขกระดูกมาใช้ในการปลูกถ่ายเพื่อรักษาโรคทางโลหิตวิทยาและโรคทางพันธุกรรมที่รักษาไม่หาย อาทิเช่น โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว โรคไขกระดูกฝ่อหรือโรคโลหิตจางอะพลาสติก และโรคธาลัสซีเมีย ซึ่งถือเป็นการรักษาตามกรอบแพทยสภา
ในปัจจุบันสเต็มเซลล์สามารถเข้ามาช่วยฟื้นฟูในการรักษาหรือบรรเทาอาการของโรคได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโรคที่เกี่ยวกับระบบประสาท โรคทางไขกระดูก โรคทางตา โรคเบาหวาน โรคกระดูก และโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง เป็นต้น
บทบาทสำคัญของสเต็มเซลล์1. ซ่อมแซมเซลล์ที่เสี่อมสภาพสเต็มเซลล์จากเซลล์ที่เจริญแล้ว หรือ สเต็มเซลล์ชนิดมีเซ็นไคม์ มีบทบาทสำคัญที่เกี่ยวข้องกับทุกระบบในร่างกาย มีหน้าที่หลัก คือ ซ่อมแซมเซลล์ที่เสี่อมสภาพ และทำหน้าที่เพื่อทดแทนเซลล์นั้นเพื่อให้การทำงานของเนื้อเยื่อและอวัยวะยังคงมีประสิทธิภาพดี
2. กลับไปยังไขกระดูก หรือ Homingไขกระดูกเปรียบเสมือนบ้านของสเต็มเซลล์เพราะเป็นสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสมในการเพิ่มจำนวน การที่สเต็มเซลล์เดินทางกลับบ้านหรือกลับไปยังไขกระดูกเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของร่างกาย
3. ปรับสมดุลในระบบภูมิคุ้มกันสเต็มเซลล์จากเซลล์ที่เจริญแล้ว หรือ สเต็มเซลล์ชนิดมีเซ็นไคม์ จะสามารถปล่อยสารเคมีเพื่อควบคุมการอักเสบ ซึ่งสารเคมีดังกล่าวจะทำให้เม็ดเลือดขาวไม่ปล่อยสารที่ทำให้เกิดการอักเสบออกมา จึงลดอาการอักเสบในร่างกายได้ และยังสร้างความสมดุลในระบบภูมิคุ้มกันได้อีกด้วย
4. ปล่อยสารเคมีเพื่อให้เซลล์ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพนอกจากปล่อยสารเคมีเพื่อควบคุมการอักเสบแล้ว ยังปล่อยสารเคมีออกมาจากเซลล์ได้หลายชนิด เช่น
- VEGF สามารถกระตุ้นการสร้างหลอดเลือดเส้นใหม่ได้
- PGF สามารถกระตุ้นให้เซลล์เยื่อบุหลอดเลือดเพิ่มจำนวนได้
- FGF และ HGF กระตุ้นให้เซลล์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่มีความเสียหายอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม สเต็มเซลล์ก็ยังเป็นความหวังในการนำมาใช้รักษาโรคอีกหลาย ๆ โรค รวมถึงใช้ในการชะลอการแก่ก่อนวัย ให้มีสุขภาพดี อีกทั้งยังเป็นทางเลือกใหม่ในการใช้สเต็มเซลล์เพื่อกระตุ้นให้เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายฟื้นฟูได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขอบคุณที่มาโดย : NOVAVIDA , กรุงเทพธุรกิจ , ดร. เภสัชกรหญิงสุดจิต ล้วนพิชญ์พงศ์. ศูนย์ความเป็นเลิศทางงานวิจัยสเต็มเซลล์ของศิริราช. คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
ขอบคุณภาพโดย : Freepik
บทความน่าสนใจ :
Stem Cell คืออะไร
CAR T–Cell เทคโนโลยีแปลงเม็ดเลือดขาวให้กำจัดเซลล์มะเร็ง
อ่านบทความเพิ่มเติม >> คลิกที่นี่